ภาพยนตร์เรื่อง "Until The Sun Meets The Star (https://www.al-raddadi.com/guestpost/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87-until-the-sun-meets-the-star-2025-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B1-2/)" นำเสนอเรื่องราวความรักที่ลึกซึ้งและสมจริง ผ่านชีวิตของลินดา (เอ็มม่า สโตน) นักเขียนที่กำลังประสบวิกฤตทางอารมณ์ และอาเธอร์ (แจ็คสัน เฮนรี่) นักดนตรีผู้มีความฝัน
การพบกันของทั้งสองที่เทศกาลดนตรีริมทะเลกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันซับซ้อน ทั้งคู่ต่างมีบาดแผลในอดีต อาเธอร์ยังคงเจ็บปวดจากการสูญเสียพ่อ ส่วนลินดาพยายามหลีกหนีจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
จุดเด่นของภาพยนตร์อยู่ที่การถ่ายทอดอารมณ์อย่างลึกซึ้ง บทสนทนาสะท้อนความรู้สึกภายในของตัวละคร โดยเฉพาะประโยคที่ลินดากล่าวว่า "บางครั้งฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนดวงดาวที่กำลังดับ สว่างจ้าอยู่ไกลๆ แต่แท้จริงแล้วอาจจะดับไปนานแล้วก็ได้"
ความสัมพันธ์ของพวกเขาต้องเผชิญความท้าทายมากมาย อาเธอร์ได้รับโอกาสทัวร์คอนเสิร์ตระดับนานาชาติ ซึ่งหมายถึงการห่างไกลจากลินดา ในขณะที่ลินดากำลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิต ครอบครัวของอาเธอร์และอดีตคนรักของลินดายังเป็นอุปสรรคสำคัญ
การแสดงของเอ็มม่า สโตน และแจ็คสัน เฮนรี่ เป็นไฮไลต์สำคัญ พวกเขาถ่ายทอดความซับซ้อนทางอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากที่อาเธอร์ร้องเพลงครั้งสุดท้ายก่อนออกทัวร์ โดยมีลินดาอยู่ในผู้ชม
ภาพยนตร์ไม่ได้นำเสนอความรักแบบหวานฉ่ำ แต่สะท้อนการเติบโต การยอมรับความไม่สมบูรณ์ และความสำคัญของการรักตัวเอง บทสรุปจบลงอย่างสมจริง แม้ทั้งคู่จะต้องแยกย้ายไปตามความฝัน แต่พวกเขาเรียนรู้ว่าความรักที่แท้จริงคือการสนับสนุนให้อีกฝ่ายเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
ด้วยคะแนน 8.2/10 จาก IMDB และ 90% จาก Rotten Tomatoes "Until The Sun Meets The Star" เป็นภาพยนตร์ที่น่าค้นหาสำหรับผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ที่มีความลุ่มลึกทางอารมณ์