"Devil May Cry (https://www.al-raddadi.com/guestpost/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B9%8C/%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C-devil-may-cry-season-1-%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87/)" แอนิเมชันแฟนตาซีสำหรับผู้ใหญ่ที่สร้างสรรค์โดย Adi Shankar และผลิตโดยสตูดิโอ Mir จากเกาหลีใต้ เป็นการดัดแปลงจากวิดีโอเกมชื่อดังของแคปคอม โดยเล่าเรื่องราวของ Dante นักล่าปีศาจรับจ้างที่ต่อสู้กับการรุกรานจากโลกปีศาจ
ซีรีส์เปิดตัวบน Netflix เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 และประสบความสำเร็จอย่างสูง เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังการเปิดตัว ก็ได้รับการต่ออายุสำหรับซีซันที่สอง แม้ว่าความคาดหวังเริ่มแรกจะไม่สูงนัก แต่กลับสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก
แอนิเมชันนี้สร้างจักรวาลทางเลือกที่แตกต่างจากเกมต้นฉบับ โดยวางฉากในนิวยอร์กช่วงต้นปี 2000 และมีการเชื่อมโยงกับประเด็นทางสังคมร่วมสมัย Dante ในซีรีส์นี้มีพลังเหนือมนุษย์ แต่ไม่ได้เก่งกาจเหมือนในเกมทั้งหมด กลับต้องใช้ความพยายามอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู
จุดเด่นของซีรีส์คือฉากต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นและการพัฒนาตัวร้ายที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีการขยายรายละเอียดของโลกปีศาจอย่างน่าสนใจ โดยนำเสนอว่าปีศาจเป็นผลของวิวัฒนาการอีกสายพันธุ์ และนรกเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงในเชิงกายภาพ
ตัวละครหลักได้รับการปรับเปลี่ยนบุคลิกเล็กน้อย Dante มีการผสมผสานระหว่างความเจ้าเล่นและความคิดลึก ส่วน Lady มีบุคลิกที่เด็ดเดี่ยวและตรงไปตรงมา ซีรีส์ยังเต็มไปด้วยการอ้างอิงที่แฟนเกมจะรู้สึกคุ้นเคย ทั้งเพลงรีมิกซ์ การปรากฏตัวของศัตรูคุ้นเคย และ Easter Egg จากเกมอื่นๆ ของแคปคอม
แม้จะมีความแตกต่างจากเกมต้นฉบับ แต่ "Devil May Cry" ฉบับแอนิเมชันสามารถสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างน่าประทับใจ ผสมผสานระหว่างการเคารพรากฐานของแฟรนไชส์และการนำเสนอมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ ทำให้ซีรีส์นี้เป็นที่ถูกใจทั้งแฟนเก่าและผู้ชมใหม่