ประชาชนไทยจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เป็น “ตับแข็ง” ด้วยมาจาก สาเหตุใด

[Jenny937]

ตามสถิติ โรค

ตับแข็ง เป็นสาเหตุของการตายของพลเมืองโลกราว 25,000 คนภายในแต่ละปี และก็ถูกจัดให้เป็นมูลเหตุการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นมาจากโรคเป็นลำดับที่ 8โรคตับแข็ง เกิดจากเยื่อตับถูกทำลายจากหลายกรณีอยู่ตลอดเป็นเวลานาน จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง เป็นพังผืดในเนื้อตับ ถ้าหากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสมจะกลายเป็นตับแข็งท้ายสุด เมื่อเกิดตับแข็ง ตับไม่อาจที่จะดำเนินการได้เป็นปกติ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้แก่ โรคตับเหลือง โรคท้องมาน สับสน เลือดออกง่าย เส้นโลหิตโป่งพองในหลอดอาหาร ตับวาย โรคมะเร็งตับรวมทั้งอาจเป็นไปได้ถึงขั้นเสียชีวิตได้  โรคตับแข็งสามารถเนื่องจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น                                                                                 
[list=1]

• เชื้อโรคตับอักเสบเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น เชื้อโรคตับอักเสบบีและซี
• การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากแล้วเป็นเวลาที่ยาวนาน
• โรคท่อน้ำดีฝ่อตั้งแต่ทีแรกกำเนิด (Biliary atresia)
• การได้รับยาบางชนิดหรือสมุนไพรบางประเภทที่ส่งผลต่อตับ
• สภาวะไขมันคั่งตับ พบได้ทั่วไปในคนอ้วน หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน
• การมีภาวะหัวใจทางเบื้องขวาล้มเหลวเรื้อรัง
• มีการอุดกั้นของหลอดโลหิตดำทางออกของตับ

   เมื่อเป็นโรคตับแข็งจะรักษาได้แบบไหน                                                                                                     
[list=1]

• รักษาตามต้นเหตุที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคตับ ได้แก่ โรคตับจากดื่มแอลกอฮอล์ ควรหยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับจากเชื้อโรคตับอักเสบบีและซี สมควรจะรักษาด้วยการใช้ยาขัดขว้างเชื้อโรค ไขมันพอกตับพึงควรควบคุมอาหารชนิดแป้ง น้ำตาลและไขมัน ทำกายบริหารเป็นอาจิณ
• ดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทานอาหารครบกลุ่ม สารอาหารและก็พลังงานเพียงพอ ไม่รับประทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงให้สุกไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และเลี่ยงยาที่ไม่สำคัญ
• ควรจะพบแพทย์ตามนัดหมายเป็นประจำ เพื่อเข้ารับการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากโรคตับ

 ในสมัยก่อนโรคตับแข็งไม่สามารถทำการรักษาให้หายสนิทได้ ยกเว้นการปลูกถ่ายตับในกรณีที่โรคเป็นมากแล้ว แต่บัดนี้พบว่าการเอาสาเหตุที่กระตุ้นให้ตับเสียหายออกไปได้ก็สามารถทำให้ลักษณะการทำงานของตับดียิ่งขึ้นได้ เป็นต้นว่า การใช้ยาต้านทานไวรัสบีหรือซี การหยุดดื่มแอลกอฮอล์ การให้ยาขับเหล็กหรือทองแดง ฯลฯ