1 วัน ของบุคลากรสำนักงานอย่างพวกเราๆตับปฏิบัติหน้าที่อะไรบ้าง ?

[luktan1479]

ชีวิตบุคลากรสำนักงาน ส่งผลต่อตับ เป็นคำถามที่ดูเหมือนจะตอบยากเนื่องจากว่าแม้ ตับมีปัญหา ตับก็จะไม่แสดงออกโดยทันที ซึ่งต่างกับอวัยวะอื่นๆที่เจ็บเมื่อไรก็ส่งสัญญาณเตือนโดยทันที แต่สำหรับตับแล้วถ้าเกิดได้รับการทำร้ายตับก็จะสามารถซ่อมแซมตัวเองแต่ก็บางทีอาจจะไม่โชคดีเสมอไปพร้อมถ้าหากตับได้รับการทำลายอย่างมากรวมทั้งต่อเนื่องก็นำมาซึ่งการทำให้ตับแข็งหรือเป็น มะเร็งตับ ได้



แล้วใน ชีวิตบุคลากรสำนักงาน 1 วันอย่างพวกเราๆนั้นสร้างภาระหน้าที่ให้ตับได้มากแค่ไหนมาดูกัน

อาหารเช้า มีผลต่อตับ 

มื้อเช้าตรู่ที่รีบร้อนของหนุ่มสาวสำนักงานส่วนใหญ่กับการดื่มกาแฟเพียงแต่ 1 แก้วหรือจนกระทั่งมิได้รับประทานอะไรเลยทำให้ร่างกายมิได้รับสารอาหารที่จำเป็นต้อง ซึ่งถ้าเกิดนับเวลาย้อนไปมื้อล่าสุดที่ร่างกายได้รับไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง แปลว่าตับคนที่เป็นหน้าที่ส่งพลังงานและก็สารอาหารไปยังส่วนต่างๆภายในร่างกายนั้นจำเป็นที่จะต้องดึงไกลโคเจนที่เก็บสะสมไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในตอนเช้าและร่างกายยังจำเป็นต้องทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่ใช้ในลัษณะของการเปลี่ยนเป็นพลังอย่างเร็วจึงจำเป็นต้องรับประทานในมื้อถัดไปมากยิ่งขึ้นอีกด้วยซ้ำซึ่งเปลี่ยนเป็นการเพิ่มภาระให้ตับสำหรับในการทำงานมากขึ้น

มลพิษ พิษ มีผลต่อตับ

ตอนเวลาเช้ายังจะต้องพบเจอมลพิษบนถนนในทุกวันด้วยชีวิตที่รีบเร่งของคนกรุงในขณะนี้ที่จำต้องเจอกับมลภาวะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ควันที่มีพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ พิษพวกนี้ เมื่อได้รับการสั่งสมเป็นระยะเวลานานอาจมีผลพวงต่อร่างกายในระยะยาวได้ ผลที่เกิดจากการวิจัยจากองค์กรอนามัยโลกระบุว่า 80% ของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆของผู้คนนั้น ล้วนแต่มีสาเหตุเบื้องต้นเกี่ยวเนื่องจากการสัมผัสกับมลภาวะที่สะสมเป็นระยะเวลานานทั้งสิ้นส่งผลต่อในร่างกายโดยยิ่งไปกว่านั้นตับที่เป็นศูนย์กลางแล้วก็กรองสารพิษของร่างกาย

Fast Food ส่งผลต่อตับ

พอมื้อเที่ยงตรงต่างคนต่างรีบเร่งเพราะส่วนมากพนักงานสำนักงานจะต้องรีบหามื้อกลางวันในขณะเดียวกันซึ่งมื้อของกินที่เหมาะกับในช่วงเวลานี้จำนวนมากก็จะเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารจานด่วนพร้อมกินได้ในทันทีแต่อาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ โดยเฉพาะตับ เนื่องจากโดยมากอาหารจานด่วนนั้น ชอบมีแป้ง น้ำตาล ไขมัน รวมทั้งโซเดียมสูงเกินสิ่งที่ต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดการสั่งสมไขมันส่วนเกินในตับได้ซึ่งถ้าหากมีไขมันพอกมากมายๆ หรือแทรกในเนื้อตับมากเข้า ส่งผลเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคไขมันพอกตับ นำมาซึ่งการก่อให้เกิดภาวการณ์ตับอักเสบ โรคตับแข็งและก็ มะเร็งตับ ในที่สุด

ความเครียด ส่งผลต่อตับ

ตอนบ่ายมีเรื่องมีราวสะสมให้เกิดความตึงเครียดอีกทั้งเรื่องเนื้องานที่ได้รับมอบหมายหรืองานด่วน งานแทรกทำให้ แนวทางการทำร้ายตับจากความตึงเครียดที่สะสม ทำให้ต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนแล้วก็ฮอร์โมนในกลุ่มความตึงเครียด ยกตัวอย่างเช่น คอร์ติซอล ซึ่งมีผลต่อการกระตุ้นเยื่อของเซลล์ต่างๆในร่างกายกระทั่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ตับและก็ทำให้ความรู้ความเข้าใจสำหรับการดำเนินงานของภูมิคุ้มกันลดลดลงทำให้เกิดความย่ำแย่ต่อตับได้ เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้ามาปองร้ายได้มากขึ้น นี่คือปัจจัยว่าเพราะอะไรพวกเราถึงล้มป่วยจากความเครียดได้

แอลกอฮอล์ บุหรี่ ส่งผลต่อตับ

และก่อนกลับไปอยู่บ้านก็มีการพบปะ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ สนทนากับเพื่อนฝูงสถานที่ทำงานทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตั  แต่ว่าหารู้ไม่ว่าเป็นการทำลายตับโดยตรง ด้วยเหตุว่าเซลล์ตับถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบยาสูบ อีกทั้งสารพิษอะซีทัลดีไฮด์ จากแอลกอฮอล์ ทำให้โรคตับอักเสบจากแอลกอฮอล์รวมทั้งการดมควันของบุหรี่ซึ่งมีสารอนุมูลอิสระปนเปรวมถึง สารนิโคติน ที่เข้าไปกระตุ้นต่อมหมวกไตส่วนนอกหลั่งสารอะดรีนาลีนนำมาซึ่งการทำให้เซลล์ตับเกิดการความเสื่อมโทรม และแอลกอฮอล์ ยังให้แคลอรี่ สูงถึง 7 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม เทียบกับ คาร์โบไฮเดรตหรือโปรตีน ที่ให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ ต่อกรัม ก็เลยไม่แปลกที่ สายดริ๊งก์ถึงเสี่ยงมีภาวะอ้วนลงพุง!!!

นอนน้อย ส่งผลต่อตับ

รวมทั้งในที่สุดกว่าจะได้นอนก็ยังนอนมืดค่ำ พักผ่อนน้อย ส่วนใหญ่แล้ววัยรุ่นออฟฟิตทั้งหลายก็ยังไม่ได้นอนนำมาซึ่งการทำให้แนวทางการทำงานกำจัดสารพิษในตับดำเนินการได้ไม่สุดกำลังส่งผลต่อการเกิดโรคร้ายที่ตามมาทั้งยังตับอักเสบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งตามทฤษฎีแล้วระยะเวลา ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง ตรงเวลาที่จะเกิดวิธีการกำจัดพิษในตับ ซึ่งควรต้องอยู่ในตอนการนอนหลับสนิท

จากความประพฤติแค่เพียง หนึ่งวันพวกเราก็สร้างภาระหน้าที่ให้ตับเรียกว่าทุกระยะเวลาเลยก็ว่าได้ ไหนจะเป็นภาระที่พวกเราหลบหลีกไม่ได้หรือบากบั่นควบคุมและทำได้ยาก โดยเหตุนี้เราก็เลยจำเป็นจะต้องที่จำเป็นต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายตับเราให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ก่อนจะไม่เหลือตับให้ดูแล