การออกแบบบ้านให้ใชัพลังงานน้อยลง

[dsmol19]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแดด โดยที่จะจะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่เหมาะสม เพื่อลดอุที่ภูมิด้านนอกใกล้รอบๆบ้านและ ป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากจนเกินความจำเป็น โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกรวมทั้ง ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะทำการเลือกประเภทต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามแคว้นอย่างเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เนื่องจากต้นไม้กลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ เป็นต้น

4. ถมดินรอบๆรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นและก็ผนังเล็กน้อยต่ำยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ รวมทั้งปลูกไม้พุ่มรอบๆฝาผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางทีก็อาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และลดความแรงของแสงตะวันที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำและก็ท่อที่มีไว้ระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ สมควร เพื่อปกป้องความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางครั้งก็อาจจะทำท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางในการซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าอยากได้ทำที่หยุดรถ ควรทำที่จอดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาและผนัง โดยความหนาของฉนวนที่ใช้จำเป็นต้อง ขึ้นอยู่กับภาระทำความเย็น แม้กระนั้นส่วนมากใช้ฉนวนที่มีความหนาราวๆ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งฝาผนังมีหลากหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกทาสีผนังด้านนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันและก็กันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนก้าวหน้า

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรที่จะทำการเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างประเภทบานพลิกที่สามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานเลื่อน

11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นเพียงแค่นั้น โดยให้เพียงพอสำหรับเพื่อการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ และควรหลบหลีกการต่อว่าดตั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวระดับเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ เพราะเหตุว่าสามารถบังแสงแดดในช่วงเที่ยงตรงและก็ช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวตั้งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกและก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือมู่ลี่รอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อป้องกันความร้อนจากแสงสว่าง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการติดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครอง ความร้อนจากแสงตะวันได้ดียิ่งไปกว่า แม้กระนั้นค่าใช้จ่ายสูงยิ่งกว่าจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่รอบๆชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง จะต้องมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองป้องกันการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่มีไว้สำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ด้านนอก

16. ทำเฉลียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งทานอาหารว่างหรือใช้ปรุงอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งโคมไฟ ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วสะกดรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองความ ร้อนแล้วก็ความชุ่มชื้นจากภายนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้แล้วก็ชั้นสำหรับวางของให้สมควร ไม่บังลม ไม่กีดกั้นการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะที่มีไว้สำหรับใช้ในการเขียนหนังสือให้หันหน้าไปในฝาผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นดูแลรักษาชำระล้าง ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เฉอะแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นด้วยเหตุว่าความร้อนแฝง



22. แยกห้องใช้สอยโดยพิจารณาถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ เช้าตรู่อยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบจะตลอดวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะเหตุว่าจะเย็นสบายที่สุด อาทิเช่น ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ รวมทั้งจำเป็นต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและออกมาจากคอนเดนเซอร์ ในด้านด้าน เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะจัดตั้งคอนเดนเซอร์สูงที่สุด แม้กระนั้นถ้าไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางทิศใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจะติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลทะนุบำรุงสบาย และใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาข้างในห้อง



25. ควรจะจัดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ภายในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสมหมายถึงไม่ควรได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง เนื่องจากจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด รวมทั้งควรจะติดตั้งในรอบๆที่สามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและ แล้วก็สะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรจัดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในรอบๆที่ไม่ปรับอากาศแล้วก็เปิดโล่ง เป็นต้นว่า ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนแล้วก็ลดความชื้นที่ปลด ปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์พวกนี้ แต่ถ้าเกิดจำต้องติดตั้งในห้องปิด ควรจำต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้เพื่อระบายอากาศ เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนและก็ความชื้นด้านในห้อง



27. ไตร่ตรองทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าถ้าหากหลบหลีกมิได้ครัวที่อยู่ ด้านในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะห้องครัวมักมี เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภท เช่น เตาอบ เตาหุง กาที่เอาไว้สำหรับต้มน้ำร้อน ตู้แช่เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. ติดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณสำนักงานหุงหาอาหารรวมทั้งอากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากข้างนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากแอร์โดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องใช้ไม้สอยและก็เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูง นอกเหนือจากการที่จะประหยัด พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ได้แก่ ใช้ตู้แช่เย็นความสามารถสูง ใช้หลอดไฟสมรรถนะสูง เป็นต้น

[Fern751]

ดันๆ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Naprapats]

ดันๆ

[Chigaru]

 ดันกระทู้

[Chigaru]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[kaidee20]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[luktan1479]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Chigaru]

ดันๆ

[Chigaru]

ดันๆ

[dsmol19]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 ดันกระทู้

[Naprapats]

 ดันกระทู้

[Fern751]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ